การเลือกถังผสมเครื่องสำอางให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพของสูตร ความคงตัวของเนื้อผลิตภัณฑ์ ต้นทุนการผลิต รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานของโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตรายเล็กที่เริ่มต้นด้วยบรรจุภัณฑ์ไม่กี่กิโลกรัม หรือโรงงานที่ต้องการระบบผสมระดับอุตสาหกรรม การทำความเข้าใจลักษณะของถังผสมแต่ละแบบและความเกี่ยวข้องกับชนิดของสูตรที่ต้องการผลิต

จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเนื้อเครื่องสำอางแต่ละชนิดมีความต้องการในกระบวนการผสมที่แตกต่างกัน ทั้งความหนืด ความไวต่อความร้อน ความต้องการแรงเฉือน และการกระจายตัวของสาร จึงจำเป็นต้องเลือกถังผสมที่ตอบโจทย์เฉพาะด้านแทนที่จะเลือกโดยอ้างอิงจากราคาเพียงอย่างเดียวการพิจารณาอันดับแรกคือความหนืดของสูตร หากผลิตภัณฑ์มีความข้นเช่นครีม โลชั่นเนื้อเข้มข้น บอดี้บัตเตอร์ หรือมาสก์เจลชนิดต่างๆ
การเลือกขนาดของถังผสมเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม
ถังผสมที่เหมาะควรเป็นถังที่มีระบบกวนแบบใบพายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความหนืดสูง เช่นใบพายแบบ Anchor หรือ Helical ซึ่งช่วยให้เนื้อสูตรเคลื่อนตัวได้ทั่วถึง ลดโอกาสการเกิดช่องว่างอากาศหรือเนื้อรวมตัวเป็นก้อน อีกทั้งยังเหมาะกับสูตรที่ต้องการการปาดตามผนังถังเพื่อลดการติดค้างและป้องกันการไหม้ของวัตถุดิบเมื่อใช้ความร้อน สำหรับสูตรความหนืดต่ำ เช่นน้ำตบ โทนเนอร์ เซรั่มเนื้อใส หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเข้ากันง่าย การใช้ถังผสมแบบใบกวนมาตรฐานหรือกังหันใบพัดความเร็วปานกลางก็เพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องที่มีแรงเฉือนสูงเกินไป
เพราะอาจทำให้เนื้อบางสูตรเสถียรน้อยลงหรือเกิดฟองมากขึ้นโดยไม่จำเป็นผลิตภัณฑ์บางชนิดต้องการการกระจายตัวของสารให้ละเอียดสูง เช่นครีมกันแดดที่มีสารกันแดดชนิดฟิสิคัล ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมแบบไมโครหรือไลโปโซม รวมถึงสูตรที่มีผงแร่จำนวนมาก ซึ่งกรณีนี้การเลือกถังผสมที่มีระบบ Homogenizer ความเร็วสูงจึงเป็นหัวใจสำคัญ ระบบนี้ช่วยทำให้สารแขวนลอยแตกตัวเป็นขนาดเล็กสม่ำเสมอ ถังผสมเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของผลิตภัณฑ์และลดปัญหาการแยกตัวของสูตร สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียนมากเป็นพิเศษ
การเลือกถังผสมที่เหมาะสมไม่ใช่เพียงเรื่องของสเปกเครื่อง แต่เกี่ยวข้องกับลักษณะธุรกิจ
การใช้ Homogenizer ที่สามารถปรับรอบได้หลายระดับจึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน และยังช่วยให้ผู้ผลิตสามารถพัฒนาสูตรได้หลากหลายขึ้นในระยะยาวการให้ความร้อนและการควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการหลอมวัตถุดิบเป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สูตรเครื่องสำอางจำนวนมาก เช่นครีม โลชั่น บาล์ม และบัตเตอร์ ต้องการให้วัตถุดิบกลุ่มไขมันหลอมละลายอย่างสม่ำเสมอก่อนนำไปผสมกับเฟสน้ำ
ถังผสมที่มีระบบให้ความร้อนแบบแจ็คเก็ตจึงเหมาะที่สุด ถังกวนผสมช่วยควบคุมอุณหภูมิได้สม่ำเสมอและปลอดภัยกว่าการใช้แผ่นความร้อนหรือเตาไฟทั่วไป แม้แต่สูตรที่ไวต่อความร้อน เช่นเซรั่มที่มีวิตามินซีหรือส่วนผสมเชิงชีวภาพ หากใช้ถังที่ควบคุมอุณหภูมิได้ละเอียดจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของสารสำคัญและคงคุณภาพของสูตรได้ดีขึ้น การเลือกถังที่มีระบบทำความเย็นร่วมด้วยยังช่วยให้ขั้นตอนการผลิตรวดเร็วขึ้น