ตู้เซฟมีกี่ประเภท เลือกให้เหมาะกับบ้านของเรา

ตู้เซฟ เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้ทรัพย์สินชิ้นเล็ก ๆ หรือเอกสารสำคัญของเราอยู่ในที่ปลอดภัยมากขึ้นค่ะ เช่น เครื่องประดับเพชร ทองคำ นาฬิกาแบรนด์เนม โฉนดที่ดิน สูติบัตร ทะเบียนบ้าน พาสปอร์ต ฯลฯ แม้ว่าหลายครอบครัวจะตัดสินใจซื้อตู้เซฟเพื่อมาเก็บทรัพย์สินมีค่าก็ไม่พ้นที่จะถูกโจรขนไปทั้งตู้เซฟหรือถูกเจาะทำลายเอาทรัพย์สินภายในไปได้อย่างที่เราได้ยินข่าวกันอยู่เนือง ๆ อย่างไรก็แล้วแต่โจรที่จะขนตู้เซฟหรือเจาะทำลายตู้เซฟได้นั้นจะต้องมีการวางแผนและรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องเจอกับอะไร จึงต้องเป็นโจรที่มีฝีมือและมีอุปกรณ์ในการเจาะเซฟจึงจะทำลายและเอาทรัพย์สินไปได้

ตู้เซฟที่นิยมใช้ตามบ้านมี 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่

  1. แบบกลไกล็อคและกุญแจ
    เป็นตู้เซฟพื้นฐานที่ได้รับความนิยมมานาน ด้วยกลไกล็อคหลายชั้นทั้งใช้โค้ตและกุญแจ ทำให้สร้างความมั่นใจกับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
  2. แบบระบบจอสัมผัส
    เป็นตู้เซฟที่พัฒนาระบบล็อกให้ทันสมัยขึ้น สามารถป้อนโค้ตผ่านหน้าจอดิจิตอลระบบสัมผัส
  3. แบบสองประตู
    เป็นตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินได้จุเป็นพิเศษ ด้วยพื้นที่จัดเก็บและการเปิดใช้งานที่กว้างเป็นพิเศษ ทำให้ใช้งานได้ค่อนข้างอเนกประสงค์ ตั้งแต่จัดเก็บเอกสารจนกระทั่งทรัพย์สินชิ้นใหญ่
  4. แบบฟังก์ชั่นพิเศษเก็บจิวเวลรี่
    เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทรัพย์สินที่เป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ โดยภายในแบ่งพื้นที่จัดวางด้วยถาดเครื่องประดับเป็นชั้นๆ

 

เกร็ดความรู้ในการเลือกสถานที่สร้างบ้านจากวิศวกรรับสร้างบ้านคุณภาพ

บ้าน เป็นคำที่มีความหมายมากกว่าที่อยู่อาศัยหรือที่หลบแดดหลบฝน สำหรับคนส่วนใหญ่มันหมายถึงความฝันและชีวิตทั้งชีวิตเลยที่เดียว

ดังนั้นก่อนที่เราจะสร้างบ้านในฝันของเราซักหลัง เราก็ควรจะเข้าใจความต้องการของตัวเอง รวมถึงสิ่งที่จำเป็นต่างๆ ที่จะทำให้บ้านของเราเป็นเหมือนที่พักกายและที่พักใจ ในยามที่เราพักจากความเหน็ดเหนื่อยของการงานประจำอย่างแท้จริง

วันนี้ http://www.whouse.co.th/main.html จึงขอเสนอข้อคิดที่ คนอยากมีบ้านทุกคนควรรู้ไว้ เพื่อให้บ้านของเราออกมาเหมือนที่ฝันไว้ มากที่สุดและตอบโจทย์ทุกเรื่องและทุกคนในบ้านได้อย่างครบถ้วน โดยเริ่มจากการดูสถานที่ตั้งบ้าน ความสำคัญของสถานที่ตั้งบ้านนั้นเป็นความสำคัญอันดับแรกที่เราต้องคิดก่อนจะสร้างบ้าน เนื่องจากเราจำเป็นต้องคิดถึงการเดินทางระหว่าง บ้านไปยัง ที่ทำงาน,โรงเรียน ,ตลาด,ศุนย์การค้า,สถานีรถไฟฟ้า,ราคาที่ดิน  เป็นต้น ในสมัยก่อนทำเลที่ดีคือทำเลที่ต้องอยู่กลางเมืองเนื่องจากระบบรถสาธารณะยังไม่ครอบคลุมเหมือนอย่างปัจจุบัน ทำให้ผู้คนต่างก็ไปกระจุกกันอยู่ในเมืองเพียงอย่างเดียว ผิดกับปัจจุบันที่ทำเลที่ดีคือทำเลที่อยู่ไกล้รถไฟฟ้า, ก่อนที่เราจะคิดถึงการสร้างบ้านเราจึงควรมองหาบริเวณที่เราสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะเหล่านี้ได้อย่างสะดวกที่สุด รวมถึงความปลอดภัยของย่านที่อยู่ที่ต้องไม่ดูเปลี่ยวจนเกินไป ในเวลากลางคืนอีกด้วย เช่นการซื้อบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านอาจจะรู้สึกอุ่นใจกว่าการสร้างบ้านเดียวที่แต่ละหลังตั้งอยู่ห่างกันเยอะๆเป็นต้น และอย่าคาดหวังกับโครงการต่างๆที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่หรือเกิดจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้เช่น บริเวณนั้นจะมีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆผ่าน ทางด่วน หรือ ถนนหนทางผ่าน เพราะเราไม่อาจรับรองได้ว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่(นอกจากการซื้อเพื่อเก็งกำไร) ควรเลือกจากสภาพปัจจุบันที่เหมาะสมที่สุด จะดีกว่า

บริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด รับสร้างบ้านหรู รับสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์น รับสร้างบ้านคุณภาพ  พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านที่ต้องการสร้างบ้าน  โดยทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้าน

เสื้อผ้าคนอ้วนหัวใจสำคัญอยู่ที่เนื้อผ้าพลิ้วไหว ไปตามสัดส่วน ใส่เสื้อผ้าคนอ้วนแล้วคล่องแคล่ว โปร่งสบาย

เสื้อผ้าคนอ้วนหัวใจสำคัญอยู่ที่เนื้อผ้าพลิ้วไหว ไปตามสัดส่วน ใส่เสื้อผ้าคนอ้วนแล้วคล่องแคล่ว โปร่งสบาย คลายร้อน อันนี้ละทำให้ผู้หญิงเราดูนุ่นนวล อ่อนโยน โรแมนติก  ที่สำคัญดูดีด้วยสิคะ เสื้อผ้าคนอ้วนผ้าซาติน

เสื้อผ้าคนอ้วนจุดเด่นอยู่ที่ความน่ารัก อ่อนหวานเกินร้อย มีแอบเซ็กซี่เล็กๆ เนื้อผ้าเสื้อผ้าคนอ้วนมีตั้งแต่ใช้ผ้าชีฟองฟู ผ้าลูกไม้ซีทรู ไปจนถึงผ้าลินินเรียบลื่น ใส่สบาย ดูเพิ่มที่นี่ https://www.xn--42c6baj1dovd6b8b1f4ece.com/
เสื้อผ้าคนอ้วนเพื่อเป็นอีกทางเลือกในการแต่งตัวของคุณสาว ๆ  เสื้อผ้าคนอ้วนให้มีแต่ความล้ำและทันสมัยขึ้นไปทุกวันกันนะคะ

สวยใสสไตล์หวาน..ในวันทำงาน ด้วยชุดเดรสที่คุณสาว ๆ หลายคนหลงใหลกันคะ ซีซั่นนี้จัดเต็มมีหลายแบบให้เลือก มีทั้งชุดเดรสเรียบหรู มีทั้งลายดอก ลายฉลุ ลูกไ ม้ ปักลาย
การแต่งตัวชุดเดรสด้วยสีสันสดใสเป็นอีกอย่างที่ช่วยให้เราอารมณ์ดีได้เหมือนกันนะคะ และคนที่พบเห็นก็พลอยรู้สึกสดชื่นไปด้วย เป็นชุดเดรสที่น่ามีไว้ติดตู้เสื้อผ้า ไว้ใส่ในวันสบายๆ

คุณสาว ๆ ได้เฉิดฉาย ไปด้วยลายเก๋ แปลก ไม่ซ้ำใคร ด้วยชุดเดรสทำงานลายกราฟิค ถึงแม้ว่า ชุดเดรสทำงานกราฟิคสไตล์จะไม่แรงไปไกลลิ่ว แต่ก็ไม่เคยเอาท์ไปจากเทรนด์
ชุดเดรสทำงานมาช่วยอัพลุคส์ให้คุณสาว ๆ กลายเป็นสาวหวาน อ่อนโยน ที่ทำให้ทั้งคนใส่ชุดเดรสทำงาน และคนที่พบเห็นเย็นตาเย็นใจไปตาม ๆ

ชุดทำงานจับคู่กับไอเท็มสีขาว คงเป็นเพราะความแตกต่างอย่างลงตัว ที่ทำให้ผู้ที่ใส่ชุดทำงานลุคนี้นั้น ทั้งดูเด่นสะดุดตา ละมุนละไม
การเพิ่มความแซ่บให้กับชุดทำงาน ด้วยความต่างอย่างลงตัว จึงทำให้การจับคู่ชุดทำงาน ไม่เคยดูเชยไปได้เลย

กำหนดลุ๊คการแต่งตัวเสื้อผ้าคนอ้วนขึ้นมาก่อน คุณจะต้องจัดหาเสื้อผ้าคนอ้วนที่จะใส่ให้พร้อม ไม่สำคัญว่าคุณจะไปไหน งานค็อกเทลปาร์ตี้  ร้านของชำ หรือ งานรื่นเริงต่างๆ

หากคุณต้องการเลือกชุดเดรสให้เหล่าเพื่อนเจ้าสาวนั้นดูเป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องกำหนดชุดเดรสให้ดูเด่นกว่าชุดแต่งงานของเจ้าสาว  แค่ให้พวกเธอนั้นดูสวยงามก็เพียงพอแล้ว
มองหาชุดเดรสในแบบเอมไพม์สไตล์ ออกแบบในแนวเจ้าหญิงที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับหรูหราและเน้นที่รูปร่างของ ชุดเดรสให้ดูเด่นสง่า

สาวหวานหลาย ๆ คนอาจจะอยากได้เคล็ดลับการ Mix & Match ไอเท็มชุดเดรสทำงานลายดอกที่จะทำให้คุณน่ารักเหมือนกับดอกไม้เหล่านั้น เลิกกังวลปัญหาการเลือกชุดเดรสทำงานไม่ถูกนี้ไปได้เลยค่ะ
การแต่งตัวชุดเดรสทำงานโดยการใช้ธีม Floral เป็นหลักนั้น เคล็ดลับอยู่ที่การ Mix ชุดเดรสทำงานไม่ให้ดูตาลายเกินไป โดยการใช้สีพื้นอย่างครีม น้ำตาลมาช่วย

กุญแจสำคัญของศิลปะการแต่งตัวชุดทำงานอย่างสุภาพทันสมัยคือการรวบรวมเสื้อผ้าชุดทำงาน และ ความคิดให้เป็นหนึ่งเดียวกัน คุณจะต้องกำหนด และ เลือกด้วยตัวคุณเอง

การใส่เสื้อผ้าคนอ้วนชุดหนังในยุคปัจจุบันให้อารมณ์ร่วมได้มากมายหลายแบบ คุณอาจเป็นสาวหวาน สาวเท่ห์ หรือสาวหรูมีสไตล์ได้ด้วยเสื้อผ้าคนอ้วนชุดหนัง

เทรนด์ชุดเดรส “พู่” สุดฟรุ้งฟริ้งด้วยดีไซน์ใหม่ๆ ที่ทุกออกแบบมาให้ใส่ง่ายและแมตช์ง่ายขึ้นด้วย ต้องบอกว่าเป็นเทรนด์ชุดเดรสเหล่าดาราและเซเลบทั้งหลายชอบกันมากๆ
ไม่ว่าวันไหนๆก็สามารถหยิบชุดเดรสมาสวมได้ ด้วยความที่ง่ายในการแต่งชุดเดรส ไม่ต้องคิดมากว่าจะแม็กซ์กับอะไรดีให้เข้ากัน

ชุดเดรสทำงานสไตล์ ‘มินิมอล’ (Minimal) ก็เป็นอีกเทรนด์ที่มาแรงมากค่ะ แม้จะเห็นว่าความเรียบง่ายในแบบชุดเดรสทำงานมินิมอลนั้นมักจะวนเวียนอยู่กับแฟชั่นเสมอๆ
ชุดเดรสทำงานกลายเป็นกระแสหลักของแฟชั่นทั้งบนรันเวย์และสตรีทแฟชั่น เป็นเพราะความเรียบง่ายของเสื้อผ้าชุดเดรสทำงาน ด้วยสีและการดีไซน์ ทำให้เราหยิบมาใส่ได้ตลอดทุก ซีซั่น ไม่มีเอ้าท์!

ชุดทำงานเป็นแฟชั่นเก๋ๆ ที่สาวๆ สามารถใส่ชุดทำงานคู่กับยีนส์ก็เด่น ใส่คู่กับกระโปรงก็ดูเก๋และน่ารัก
ชุดทำงานมีความเป็นเฟมินีนที่แอบแฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง มีการนำเอาผ้าลูกไม้มาใช้เพื่อเพิ่มความอ่อนหวานให้กับชุดทำงาน

อยากรู้จริงๆว่า CU-TEP นั้นเกี่ยวกับอะไร?

tutor

เราเป็นคนหนึ่งที่ข้องใจว่า CU-TEP เป็นการสอบเกี่ยวกับอะไรแล้วทำไมต้องสอบ มันก็เป็นข้อข้องใจของใครหลายๆคนนะ พอเราได้ไปดูข้อมูล อ่อเลยค่ะ!! 555555 การสอบ CU-TEP เป็นแบบทดสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษ ที่ได้รับการยอมรับในประเทศไทย และมีมาตรฐานเลยละคะ เขาจึงนำผลการทดสอบ CU-TEP เป็นหนึ่งในเกณฑ์ การตัดสิน คัดเลือกผู้เข้าเรียนในสถาบันการศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งเกณฑ์แต่ละเกณฑ์ของสถาบันก็จะแตกต่างกันออกไปนะคะ ซึ่งเราต้องไปอ่านรายละเอียดของเขาอีกทีว่าเป็นอย่างไร นั้นก็เพราะ การตั้งก็จะต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับการคัดคุณสมบัติของผู้สมัครเรียน

ต่อไปเรามาลองดูกันสำหรับการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ผู้ที่จะสมัครเรียนต่อในหลักสูตรนานาชาติ ผู้สมัครจะต้องมีคะแนน CU-TEP อยู่ที่ 550 คะแนน หรือเทียบเท่า ก็คือต้องทำให้ได้ 80 ข้อเลย จาก 120 ข้อ เกินครึ่งมาอย่างเยอะเลยละ เพราคนที่จะมาเรียนนั้นต้องพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีในระดับหนึ่ง   ซึ่งอาจจะมีการวัดทักษะอื่นประกอบด้วย แต่หนึ่งในพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ คือ ทักษะภาษาอังกฤษ หรือการสอบ CU-TEP นั่นเอง

อยากให้ผู้ที่จะมาสอบนั้นมั่นทบทวนกันเลยละคะ เพราะจากที่เห็นคงจะไม่ใช่ง่ายๆที่จะสอบแล้วได้เลย ต้องฝช้ทักษะในการท่องจำและหมั่นทำแบบฝึกภาษาอังกฤษ เดียวเราก็จะไปอ่านหนังสือแล้วละ ไม่งั้นมีท่าว่าจะมาสอบอันนี้ไม่ผ่าน แต่เห็นก็มีคอรส์ติวนะ ลองไปก็คงดีอ่ะ เนี้ยเว็บนี้ http://www.thesmarttutor.com ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโอเคแค่ไหน แต่ลองดูคงไม่น่าจะเสียหายอะไรจริงม่ะ??

การทำงาน bangkok massage service ด้วยสมุนไพซาวน่า

bangkok              ในการทำสปาอบซาวน่านั้นหรือที่รู้จักกันคือการอบสมุนไพรเพื่อจะมากระตุ้นร่างกายด้วยความร้อนเพื่อให้รูขุมขนในร่างกายเปิดกว้างพร้อมที่จะขับสารพิษออกมากับเหงื่อ ถือว่าเป็นที่นิยมในการทำสปา ของ bangkok massage service ด้วยขั้นตอนนั้นไม่มีอะไรยากมากจนเกินไป เพราะในประเทศไทยของเรานั้นจะมีสมุนไพรที่จะช่วยให้ขับสารพิษที่อยู่ภายในร่างกาย รวมถึงตอนนี้นวัตกรรมสมัยใหม่ค่อนข้างจะมีมาก จึงทำให้โลกเปิดกว้างการนำเทคโนโลยีมาสกัดสมุนไพรเพื่อใช้อบซาวน่าจึงไม่เป็นเรื่องยากมากเท่าสมัยก่อนนะคะ ขอแค่มีอุปกรณ์ซาวน่าก็คงจะเพียงพอแล้ว

โดยทาง bangkok massage service ยังมีบริการสครับ ที่ถูกออกแบบมาโดยการขัดผิวจากธรรมชาติ ล้วนแล้วแต่พืชสมุนไพรที่เราต่างรู้จักกันดีเลยละคะ อย่างพวก เกลือทะเล สาหร่าย ฟองน้ำที่จะมาทำให้ขจัดเซลล์เสื่อมสภาพให้หลุดออกไปนั้นเอง จึงจะทำให้เกิดเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งในเซลล์ใหม่จะมาเติมเต็มอาหารของผิว ทำให้ผิวที่ถูกการสครับนั้น นุ่มเนียนเรียบ และมีสีผิวที่สม่ำเสมอมากกว่าตอนที่ยังไม่สครับนะคะ  การขัดผิวสามารถใช้สมุนไพรขัดหรือใช้ครีมขัด แต่บางทีอาจจะมีบางคนที่แพ้สมุนไพรหรือปัญหาของผิวของตนเองแห้งมากกว่าปกตินัน้คือปัญหาที่อาจจะตามมาได้ เนื้อครีมอาจจะช่วยได้มากกว่าในคนที่แพ้ แต่ก็ต้องดูรายะเอียดให้ดี ซึ่งเนื้อครีมจะเข้ามาช่วยทำให้อ่อนนุ่มลงลดแรงการเสียดสีกับผิวหนัง ซึ่งจะป้องกันการอักเสบและการแพ้ของผิวหนังได้ แต่ขอแนะนำให้ลองมานวดกับเราดูนะคะ ที่ www.bangkokanitamassage.com

5 วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง มีผักสด ๆ ไว้กินที่บ้านทุกวัน

ผักในกระถาง

วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง แม้พื้นที่ในบ้านจะคับแคบ แต่ก็สามารถปลูกผักสวนครัวเอาไว้กินเองได้ง่าย ๆ มีผักสด ๆ ไว้กินได้ทุกวัน แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกเยอะเลย

ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง เราก็คงต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันใหม่ให้มันคล่องตัวมากยิ่งขึ้น วันนี้กระปุกดอทคอมเลยอาสารวบรวมวิธีปลูกผักสวนครัวในกระถางอย่างง่าย ๆ ด้วยตัวเองมาฝากกันค่ะ ไม่ว่าพื้นที่ในบ้านและคอนโดจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ก็สามารถปลูกผักเหล่านี้เอาไว้กินเองได้ค่ะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อให้สิ้นเปลือง เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการประหยัดค่าใช้จ่าย

  1. วิธีปลูกผักชี

เริ่มจากนำดินปลูกมาตากให้แห้ง แล้วเอาไปผสมกับปุ๋ยคอกที่เตรียมไว้ จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ผักชีมาบดเบา ๆ ให้แตกออกเป็น 2 ส่วน แล้วแช่น้ำไว้ 3 ชั่วโมง นำมาผึ่งลมอีกครั้ง ก่อนคลุกเมล็ดกับทรายและขี้เถ้า แล้วปลูกลงในกระถาง คลุมหน้าดินด้วยฟาง ตามด้วยรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะเกินไป

วิธีปลูกผักในกระถาง

  1. วิธีปลูกต้นหอม

ขั้นตอนแรกคือนำเปลือกถั่วลิสงบดและผสมกับดินร่วน จากนั้นนำดินใส่ในกระถางปลูก แล้วนำต้นหอมมาตัดตั้งแต่รากขึ้นไปยังลำต้นประมาณ 1.5-2 นิ้ว ให้เหลือท่อนเล็ก ๆ ก่อนปักชำลงในกระถางที่เตรียมไว้ รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังจากใบงอกแข็งแรงแล้ว ให้เปลี่ยนมารดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ

วิธีปลูกผักในกระถาง

  1. วิธีปลูกพริก

นำเมล็ดพริกไปแช่น้ำไว้ 1 วัน ผึ่งให้แห้ง แล้วหันไปผสมดินร่วน ทราย และปุ๋ยหมัก เพื่อเทลงในกระถางเพาะกล้า จากนั้นหย่อนเมล็ดพริกลงไปปลูกในดิน ดูแลรดน้ำให้ต้นโตสูงประมาณ 6 นิ้ว คัดเลือกเอาต้นกล้าที่แข็งแรงที่สุดไปปลูกในกระถางที่มีดินร่วนปนทรายและปุ๋ยหมัก รดน้ำเช้า-เย็น และตั้งให้โดนแดด

วิธีปลูกผักในกระถาง

  1. วิธีปลูกกะเพรา

 

หลังจากทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้ายังมีต้นกะเพราเหลืออยู่ อย่าเพิ่งทิ้งค่ะ ให้นำก้านมาลิดใบออกจนหมด และตัดฐานก้านออกเพียงเล็กน้อย จากนั้นนำไปปักลงในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รดน้ำเช้า-เย็นให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ และตั้งให้โดนแดด

วิธีปลูกผักในกระถาง

  1. วิธีปลูกมะนาว

ก่อนอื่นต้องนำเมล็ดมะนาวมาล้าง ตากให้แห้ง และแช่ในน้ำเย็นอีก 1 คืน จากนั้นห่อเมล็ดด้วยกระดาษทิชชู นำไปใส่กล่องที่มีฝาปิด คอยพรมน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ รอให้รากงอกภายใน 2-3 วัน แล้วค่อยย้ายเมล็ดมาปลูกในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ และตั้งกระถางให้โดนแดดรำไร

วิธีปลูกผักในกระถาง

 

การปลูกผักสวนครัวที่บ้านกิจกรรมเล็กๆ

เวลานี้ต้องยอมรับว่า ผู้ใหญ่ใจดีหลายท่านต่างกุลีกุจอจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อเด็กๆกันยกใหญ่จนพ่อแม่ผู้ปกครองอาจสับสนถึงกับเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะให้ลูกทำกิจกรรมแบบไหนดี แต่ทว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้างที่พ่อแม่จะสรรค์สร้างให้ลูกได้โดยที่ไม่ต้องออกไปนอกบ้านเพื่อตระเวนหาที่เที่ยวหรือทำกิจกรรมแถมยังลดต้นทุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ดังนั้น นอกจากการเล่นกีฬาเบาๆ หรือกิจกรรมจำเจโดยมีเจ้าคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นเกมต่างๆมาเป็นตัวช่วยแล้ว ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆที่ลงทุนทางการเงินน้อย ซึ่งใครๆก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะเด็กๆในครอบครัว

กิจกรรมนั้นก็คือ “การปลูกพืชผักสวนครัวที่บ้าน” กิจกรรมสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะต้องอาศัยความร่วมมือของคนในครอบครัว ตั้งแต่การลงมติกันว่าจะปลูกผักอะไรบ้าง ปลูกบริเวณไหนของบ้าน ใครเป็นคนขุดดิน ใครจะรับหน้าที่โรยเมล็ด และที่สำคัญการแบ่งเวรดูแลรดน้ำต้นไม้

ส่วนเมล็ดพันธุ์ต่างๆนั้นก็มีมากมายให้เลือกไม่่ว่าจะเป็น ผักบุ้ง ผักกาด คะน้า กวางตุ้ง พริก ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี ฯลฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าทุกคนในบ้านอยากจะทานผักอะไร ชอบผักชนิดใด หรืออาจเลือกจากการดูระยะเวลาของการเจริญเติบโตของแต่ละชนิดก็ได้เช่นกัน เพราะต้นไม้ใช้เวลามากน้อยต่างกันในเรื่องของการเก็บดอกออกผล

นอกจากการได้ทำกิจกรรมร่วมกันแล้ว พ่อแม่และผู้ปกครองควรจะสอดแทรกคำสอนและระเบียบวินัยลงไปด้วย เช่น ควรสอนให้ลูกรู้จักความรับผิดชอบในการดูแล รดน้ำต้นไม้ให้เป็นเวลา และสอนให้รู้จักสังเกตการเจริญเติบโตของมันในแต่ละช่วง ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใหญ่ยังสามารถใช้เวลานี้ทำให้เด็กๆรับรู้ว่า พวกเขาก็มีศักยภาพมากพอที่จะทำงานสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องขอเงินไปซื้อของในสิ่งที่อยากได้เท่านั้น เพราะทุกสิ่งมันขึ้นอยู่กับการรู้จักประยุกต์และการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ

กิจกรรมการเพาะปลูกเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเด็กปฐมวัย

กิจกรรมการเพาะปลูกเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเด็กปฐมวัย
การทำสวนผักยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่การสร้างกระบวนการเรียนรู้ของเด็กได้อย่างมากมาย การให้เด็กได้ปลูกผักมีส่วนช่วยในขั้นตอนต่างๆ มีผลทำให้เด็กที่ไม่กินผักหันมากินผักมากขึ้น โดยเฉพาะผักที่ตัวเองปลูกเองกับมือ หลายโรงเรียน หรือคุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงเริ่มสนใจ แต่บางทีก็คิดไม่ค่อยออกว่าจะนำเรื่องการปลูกผักมาเชื่อมโยงกับกระบวนการเรียนรู้ของเด็กๆได้อย่างไร

สำหรับเด็กในชุมชนเมืองมีพื้นที่สำหรับใช้ในการเพาะปลูกน้อย พ่อแม่ควรจัดพื้นที่หน้าบ้านหรือระเบียงไว้สำหรับให้เด็กได้เพาะปลูกผัก ไม้ดอก ไม้ประดับที่มีต้นไม่ใหญ่มากนัก เพื่อให้เด็กเรียนรู้ที่จะดูแลรักษา และเกิดความรับผิดชอบ ภาคภูมิใจในกิจกรรมการเพาะปลูก และเป็นการปูพื้นฐานให้ตระหนักและรับรู้ถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรมีบทบาทในการจัดกิจกรรมการเพาะปลูกเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเด็กปฐมวัย ดังนี้

  1. จัดสภาพแวดล้อมที่บ้านให้มีความร่มรื่นสวยงามด้วยการจัดพื้นที่สำหรับการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ต้นไม้ที่ให้ร่มเงาเพื่อให้เด็กได้ซึมซับเกี่ยวกับประโยชน์ของต้นไม้และธรรมชาติที่มีต่อการดำรงชีวิต เช่น ให้ความสดชื่นสวยงามสบายตา ให้ร่มเงาและคลายร้อนได้
  2. จัดพื้นที่หลังบ้านให้มีแปลงพืชผักสวนครัว เช่น การปลูกขมิ้น ตะไคร้ ขิง ข่า ใบมะกรูด ผักบุ้ง ผักคะน้า ฯลฯ เพื่อนำมาใช้ในการประกอบอาหารของครอบครัวและให้เด็กได้เรียนรู้ด้วย
  3. ให้เด็กได้มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการปลูกพืชผัก สวนครัว การปลูกต้นไม้ ตั้งแต่การเตรียมการปลูก ลงมือปลูกและการบำรุงดูแลรักษาให้พืชผักเจริญเติบโตจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ความรู้สึกรับผิดชอบและความภาคภูมิใจที่เกิดจากการได้ทำกิจกรรมการเพาะปลูกด้วยตนเอง จะนำไปสู่การรับรู้ถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้
  4. สอนเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามโอกาสที่เหมาะสม เช่น การพาลูกไปเที่ยวอุทยาน สวนสัตว์ที่มีพื้นที่ป่าและต้นไม้ โดยชี้ให้เด็กเห็นว่าต้นไม้มีประโยชน์ เป็นสถานที่สำหรับการมาท่องเที่ยวและพักผ่อน เป็นสถานที่มีอากาศบริสุทธิ์สำหรับการอยู่อาศัยของสัตว์ด้วย นอกจากนี้ต้นไม้ยังเป็นที่กักเก็บน้ำ เช่น รากของต้นไม้ใหญ่บนภูเขาเป็นแหล่งกักเก็บน้ำทำให้มีน้ำใช้ได้ตลอดไป ถ้าเราไปตัดต้นไม้นั่นหมายถึงการทำลายต้นน้ำลำธารด้วย
  5. แนะนำเด็กให้ดูสารคดีที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติจากรายการโทรทัศน์ต่างๆที่เป็นประโยชน์ เนื่องจากสารคดีต่างๆที่นำเสนอจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ค่อนข้างถาวรจนเกิดเป็นนิสัย ซึ่งจะปลูกฝังให้เกิดความรัก ความหวงแหน และตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การรับรู้เป็นการสร้างลักษณะนิสัยให้มองเห็นคุณค่าความงดงามของสิ่งแวดล้อม

 

4 เทคนิคชวนลูกปลูกผัก ช่วยให้พัฒนาทั้งทักษะร่างกาย ทักษะสมอง

การปลูกผักกินเอง นอกจากจะประหยัด มีผักปลอดสารพิษไว้กินแล้ว หากลองฝึกให้เด็กๆ ลงมือทำด้วยจะช่วยให้พัฒนาทั้งทักษะร่างกาย ทักษะสมอง และพื้นฐานเรื่องอารมณ์จิตใจที่เหมาะสมตามวัย ปรับทัศนคติของเด็กที่ไม่ชอบกินผักได้ดีอีกด้วย

หากพูดถึงศัตรูในใจเด็ก ส่วนใหญ่หนึ่งในนั้นคงเป็น “ผัก”แน่นอน การปลูกพืชผักสวนครัวไว้สำหรับรับประทานเองในครอบครัวเพียงพื้นที่เล็กๆ สามารถทำให้เกิดกระบวนการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการรับประทานผักเกิดแก่เด็กจากที่เกลียดผักให้กลายเป็นเด็กที่รักการรับประทานผัก เด็กจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นผักที่เขาปลูกเองค่อยๆ โตขึ้น พ่อแม่ก็จะรู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กันเวลาได้เห็นลูกมีความสุข เมื่อได้รับประทานผักจากแปลงผักของเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นทำให้เกิดการเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ค่อนข้างถาวรจนเกิดเป็นนิสัย ซึ่งจะปลูกฝังให้เกิดความรัก ความหวงแหน และตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การรับรู้เป็นการสร้างลักษณะนิสัยให้มองเห็นคุณค่าความงดงามของสิ่งแวดล้อม

ครอบครัวชนบทสามารถทำให้ลูกเรียนรู้ได้โดยง่ายเนื่องจากวิถีชีวิตจะอยู่กับธรรมชาติและต้นไม้ สำหรับชุมชนเมืองมีพื้นที่สำหรับใช้ในการเพาะปลูกน้อย เพียงพื้นที่หน้าบ้านหรือระเบียงสามารถปลูกผักตะกร้า หรือปลูกผักแนวตั้ง ถ้วย กะละมัง ขวดพาสติก ก็สามารถเพาะปลูกได้ ซึ่งปัจจุบันมีองค์ความรู้เรื่องของการปลูกผักในพื้นที่เล็ก ๆ มากมาย อย่างเช่นเว็บไซต์ของ สวนผักคนเมือง ก็มีทั้งองค์ความรู้และศูนย์เรียนรู้ที่กระจายอยู่หลายพื้นที่ให้ได้ศึกษาและนำมาปรับใช้ในบ้านได้ไม่ยาก

เทคนิคการสอนลูกปลูกผัก
1.ก่อนที่จะลงมือสอนลูกพ่อแม่เองต้องเรียนรู้ ก่อนว่าตนมีความรู้ทางด้านการเกษตรมากน้อยเพียงใด หากไม่มีความรู้มากนักก็ควรเริ่มจากศึกษาลงมือด้วยตนเองก่อน เมื่อคิดว่าทำได้สำเร็จแล้วจึงชักชวนลูกมาร่วมกันทำ
2. เริ่มจากการปลูกผักที่ปลูกขึ้นได้ง่ายๆ เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ผักชี ต้นหอม คะน้า ผักบุ้งจีน กะเพรา โหระพา พริก มะเขือเทศ เป็นต้น รวมถึงอธิบายถึงประโยชน์ของผักแต่ละชนิดให้เด็กได้เรียนรู้ โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน ให้เด็กได้ลองสังเกตแยกแยะลักษณะของผักแต่ละชนิดด้วยตนเอง
3.ให้เด็กได้มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการปลูก ตั้งแต่การเตรียมการปลูก ลงมือปลูกและการบำรุงดูแลรักษาให้พืชผักเจริญเติบโตจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยอาจใช้วิธีเล่นเป็นเกมแข่งปลูกต้นไม้ และจากนั้นก็ต้องมีการดูแลหมั่นรดน้ำต้นไม้ที่ตัวเองปลูก แล้วดูว่าต้นไม้ของใครจะเจริญเติบโตได้ดีกว่ากัน
4. ควรจะสอดแทรกคำสอน และระเบียบวินัยลงไปด้วย เช่น ควรสอนให้ลูกรู้จักความรับผิดชอบในการดูแล รดน้ำต้นไม้ให้เป็นเวลา และสอนให้รู้จักสังเกตการเจริญเติบโตของมันในแต่ละช่วง ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้เวลานี้ทำให้เด็กรับรู้ว่า พวกเขาก็มีศักยภาพมากพอที่จะทำงานสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ด้วยตัวเอง

การปลูกผัก ช่วยสอนวิธีใช้ชีวิต และการกินอาหารอย่างถูกสุขอนามัย โดยที่เด็กจะเต็มใจลองผักชนิดใหม่มากขึ้น เริ่มต้นจากพื้นที่เล็ก ๆ ในบ้านก็สร้างการเรียนรู้ที่ดีได้ ที่สำคัญคือ พ่อแม่ต้องใส่ใจ เข้าใจ และร่วมลงมือทำกับลูก

การหันมาปลูกพืชผักปลอดสารพิษเพื่อจำหน่ายและทานเอง

14266537991426653891l
ผักปลอดสารพิษ คือผักที่ปลอดสารพิษในช่วงตอนเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่ไม่ได้ปลอดการใช้สารเคมีในช่วงระหว่างการเพาะปลูก ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ควรจะเป็นผักทั่วไปที่เราหาซื้อมาบริโภคกันตามท้องตลอดทั่วไปใช่ไหม แต่โลกในความเป็นจริงมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้น เพราะในปัจจุบันผักที่วางขายส่วนมากก็จะมีสารพิษเกินค่ามาตรฐานอยู่ เพราะบางแห่งก่อนเก็บเกี่ยวเขายังต้องฉีดยาฆ่าแมลง ตัวอย่างผักที่พบสารพิษตกค้างเกินค่ามาตรฐานก็เช่น ผักคะน้า มะเขือพวง พริกสด ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ แตงกวา ต้นหอม ผักชี หัวไชเท้า เป็นต้น นอกจากนี้ผู้บริโภคควรจะเลือกรับประทานผักให้เหมาะสมกับฤดูกาล เช่น ถ้าเป็นฤดูฝน ผักคะน้าที่เห็นขายในตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะปนเปื้อนสารเคมี ก็ให้หันมาบริโภคผักกวางตุ้งแทน เป็นต้น หรือเลี่ยงการบริโภคผักที่อยู่นอกฤดูกาล เช่น ในฤดูฝนเป็นไปไม่ได้ที่ผักกะหล่ำจะออก ถ้ามีขายก็แสดงว่าต้องมีการใช้สารเคมีอย่างดุเดือด เป็นต้น

การเลือกเก็บเกี่ยวผลผลิตควรเก็บในระยะที่มีอายุแก่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผัก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณค่าทางอาหาร รสชาติ และลักษณะรูปร่าง สีสัน ความสุกเหมาะสมและดีที่สุด เมื่อถึงมือผู้บริโภค การเก็บเกี่ยวควรทำด้วยความระมัดระวัง อย่าให้เกิดร้อยช้ำ รอยขีดข่วน เพื่อรักษาคุณภาพให้ดีที่สุด การสูญเสียของพืชผักหลังการเก็บเกี่ยวมีสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอากาศร้อนของประเทศไทย ผักกินใบเป็นผักที่เน่าเสียได้ง่าย โดยเฉพาะหากในระหว่างเก็บเกี่ยวผักมีการ บอบช้ำ ฉีกขาด หรือเป็นแผลจากการเก็บเกี่ยว และการขนย้ายที่ไม่ดีทำให้เชื้อโรคต่างๆเข้าทำลายง่าย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียของพืชผักควรต้องมีการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสมทั้งก่อนการเก็บเกี่ยวและหลังการเก็บเกี่ยว

ประโยชน์ของการรับประทานผักปลอดสารพิษ

1.ทำให้ได้ผักที่มีคุณภาพ ไม่มีสารพิษตกค้าง เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
2.การบริโภคผักที่ปลอดสารพิษในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี มีความแข็งแรง ไม่เจ็บได้ง่าย ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3.ช่วยทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น หากเกษตรกรไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
4.ช่วยลดปริมาณการนำเข้าสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชจากต่างประเทศ
5.ช่วยลดต้นทุนการผลิตจองเกษตรกรในด้านค่าใช้ต่าง ๆ
6.เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการปลูกผักปลอดสารพิษ เนื่องจากได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ทำให้ขายได้ในราคาที่สูงขึ้น
7.ช่วยลดปริมาณของสารเคมีซึ่งเป็นพิษที่จะปนเปื้อนเข้าในดิน ในอากาศ และในน้ำ
8.การบริโภคปลอดสารพิษนอกจากจะช่วยทำให้ชีวิตปลอดภัยแล้ว ยังน้อมนำสู่วิถีชีวิตที่พอเพียง

คุณแม่ต้องการสร้างนิสัยรักการกินผักให้กับลูกน้อย

.4

เขี่ยผักไว้ข้างจานอีกแล้วนี่คงเป็นปัญหาที่คอยสร้างความหนักใจให้กับคุณแม่หลายท่าน เมื่อถึงเวลาต้องรับประทานอาหารของลูกน้อยอยู่บ่อย ๆ นั่นเป็นเพราะธรรมชาติของเด็กเล็ก มักจะติดรสชาติของอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือได้ง่าย จึงมักปฏิเสธการรับประทานอาหารที่มีรสขม โดยเฉพาะผักใบเขียวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแต่จากผลการวิจัยที่ระบุว่า เด็กทารกส่วนใหญ่มักมีแนวโน้มชอบรสชาติของอาหารที่แม่รับประทานในระหว่างตั้งครรภ์ และช่วงให้นมบุตร จึงถือเป็นโอกาสที่ดีหากคุณแม่ต้องการสร้างนิสัยรักการกินผักให้กับลูกน้อย โดยเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสม ไม่เป็นอาหารที่มีรสจัด และรับประทานผักผลไม้หลากหลายชนิดในปริมาณมาก ๆ ระหว่างตั้งครรภ์และในระหว่างการให้นม เด็กก็จะเปิดรับการทานผักและผลไม้มากขึ้นหลังจากหย่านมแล้ว เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับรสชาติของอาหารเหล่านั้นเป็นอย่างดี

การวิจัยนี้เป็นผลมาจากการสำรวจทารกที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งพบว่า เด็กที่คุณแม่ดื่มน้ำแครอทในระหว่างตั้งครรภ์เป็นประจำ หรือสัปดาห์ละหลาย ๆ ครั้ง จะชอบรับประทานซีเรียลรสแครอทมากกว่าเด็กในกลุ่มอื่น จึงยืนยันได้ว่า รสชาติของอาหารที่มารดารับประทานเข้าไปสามารถสื่อถึงลูกน้อยโดยผ่านทางน้ำคร่ำและน้ำนมของมารดาได้ จึงสรุปได้ว่า รูปแบบการรับประทานอาหารของมารดาส่งผลต่อลักษณะนิสัยการบริโภคอาหารของลูกน้อย ดังนั้น ยิ่งคุณแม่รับประทานอาหารที่หลากหลายมากเท่าใด ลูกที่เกิดมาก็จะไม่เรื่องมากในเรื่องของการรับประทานอาหารตามไปด้วย

แต่นั่นก็ยังไม่สายเกินไปสำหรับคุณแม่ที่กำลังตัดพ้อว่ารู้อย่างนี้ กินผักมาก ๆ ตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์เสียก็ดี เพราะเรายังสามารถสอนให้เด็กปรับตัวยอมรับและรักการกินผักอย่างรวดเร็วได้ ตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนจากการดื่มนมมาเป็นอาหารแข็ง ซึ่งบทสรุปของการวิจัยนี้ เกิดจากการทดลองให้เด็กรับประทานถั่วลันเตานานติดต่อกันเป็นเวลา 8 วัน ภายหลังเริ่มเปลี่ยนจากนมมาเป็นอาหาร ซึ่งพบว่าเด็กจะทานถั่วโดยเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น ใช่ว่าจะเฉพาะแต่เด็กที่ดื่มนมจากแม่เท่านั้น เพราะเด็กที่ดื่มนมจากขวดก็สามารถปรับตัวและมีนิสัยรักการกินผักได้ หากพวกเขาได้เรียนรู้เรื่องการกินผักและผลไม้ในทันทีตั้งแต่เริ่มหย่านม

การหันมารับประทานพืชผักสวนครัว

Farmthailand2
ผักสวนครัว เป็นผักที่ปลูกไว้ในบริเวณบ้านหรือที่ว่างต่างๆ ในชุมชนต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกไว้สำหรับรับประทานเองภายในครอบครัวหรือชุมชน การปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานจะทำให้ผู้ปลูกได้รับประทานผักสดที่อุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ มีความมปลอดภัยจากสารเคมี ลดรายจ่ายในครัวเรือน และที่สำคัญทำให้สมาชิกในครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกันในการปลูกผักเพื่อเกิดสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว โดยทั่วไปคนต้องมีการบริโภคผักอย่างน้อยวันละ 200 กรัม เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน เป็นพืชอะไรก็ได้ที่เราปลูกขึ้นเองหรือขึ้นเองตามธรรมชาติและเราสามารถเอาส่วนต่างๆ ของพืชมาบริโภคได้ เช่น ใบ ก้าน ลำต้น ดอก ผล เมล็ด หรือรากมาประกอบอาหาร โดยที่พืชจะต้องมีลักษณะอ่อนนุ่ม ไม่แข็ง อวบน้ำ มีรสชาติหวานหรือบางชนิดเป็นขม และไม่พิษต่อร่างกาย

เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของมนุษย์ ให้สิ่งต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งอาหารชนิดอื่นๆมีไม่เพียงพอหรือไม่มี ผักสวนครัวมีคุณสมบัติช่วยให้ระบบย่อยอาหารของร่างกายลดสภาพความเป็นกรดโดยสาเหตุจากย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เนย และอื่นๆ เยื่อใยของพืชผักสวนครัว ช่วยระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ ลดการเป็นโรคลำไส้ และมะเร็งในลำไส้ ลดปริมาณคลอเรสตอรอล ลดความอ้วน ผักสวนครัวอุดมไปด้วยธาตุแคลเซียมและธาตุเหล็ก ผักสีเขียวและเหลืองให้ วิตามินเอ ซี สำหรับถั่วต่างๆจะให้โปรตีน ประเภทหัว เช่น มันฝรั่ง มันเทศ ให้คาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีความสำคัญในด้านคุณค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการบริโภคการอุตสาหกรรมเกษตรและการผลิตเมล็ดพันธุ์ ซึ่งมีทั้งใช้บริโภคภายใน และส่งไปจำหน่าย จึงทำให้พืชผักสวนครัวมีแนวโน้มที่จะเป็นเศรษฐกิจในอนาคต

ประโยชน์ของผักสวนครัว

1. ใช้รับประทานเป็นอาหารโดยอาจรับประทานสดๆ เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี หรือนำไปปรุงเป็นอาหารก่อน ซึ่งผักแต่ละชนิดจะมีสารอาหารที่แตกต่างกัน เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ เป็นต้น
2. ใช้เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรค เช่น หอม กระเทียม ขิง สะระแหน่ เป็นต้น
3. ใช้ขายเพื่อเป็นรายได้ของครอบครัว
4. ทำให้ผู้ปลูกมีร่างกายแข็งแรง เพราะต้องพรวนดิน รดน้ำ ใส่ปุ๋ย และดูแลผักอยู่เสมอ ทำให้ได้ออกกำลังกายไปในตัว
5. ทำเป็นรั้วบ้านได้

เคล็ดลับให้ลูกยอมกินผักโดยการให้ปลูกผัก

ผักเป็นอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยเด็กจำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ทว่าเป็นเรื่องชวนปวดหัวของพ่อแม่ผู้ปกครอง เพราะเด็กๆ มักไม่ชอบรับประทานผัก ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่ามีเพียง 41% ของเด็กเท่านั้นที่รับประทานผักเป็นประจำ เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบกินผัก เจอที่ไรเป็นเขี่ยทิ้งทุกที มาดูเทคนิคหลอกล่อให้เด็กมายอมกินผักกันดีกว่า
1.แปลงโฉม จะหลอกล่อเด็กกินผักทั้งที ถ้าทำมาแบบธรรมดาๆ มีรึที่เจ้าตัวเล็กจะสนใจ ลองจับเอามาแปลงร่างให้กลายเป็นผักชนิดใหม่ จะเติมหูเติมหางให้กลายเป็นตัวอะไรก็ได้แล้วแต่เราอยากจะเนรมิต เอาให้น่ากินก็เป็นใช้ได้
2.แปลงรส ต้องยอมรับความจริงกันว่ามีผักอยู่ไม่กี่ชนิดหรอกที่จะอร่อยด้วยตัวของมันเอง เพราะฉะนั้นเราต้องมาช่วยแต่งผักให้รสชาติเข้าท่าเข้าไว้ พอเข้าปากเจ้าตัวเล็กแล้วไม่รีบคายทิ้งออกมา เช่น นำไปชุบแป้งทอดผักก็จะกรอบ เจ้าตัวเล็กก็เคี้ยวกรุบๆ เพลินไปเลย
3.ชวนลูกปลูกผัก ข้อนี้เป็นกุศโลบายทางอ้อม เพระาเมื่อเจ้าตัวเล็กมีส่วนร่วมอาจจะเป็นแค่หยอดเมล็ด รดน้ำ หรือช่วยหยิบๆจับๆอะไรบ้าง ลูกก็จะเกิดความภูมิใจอยากชิมผักที่เขาและเราช่วยกันปลูกขึ้นมา
4.หม่ำด้วยกัน อุตส่าห์หลอกล่อให้เขาหม่ำ แต่ถ้าเราไม่หม่ำๆไปกับเขาด้วยล่ะก็ อาจไม่สำเร็จ เพราะบางทีเจ้าตัวเล็กก็ชอบที่จะเลียนแบบ ยิ่งถ้าเวลาที่เขากินแล้วเราให้คำชมนิดๆหน่อยๆล่ะก็ สำเร็จแน่ๆ

พ่อแม่รู้ไว้นะว่าลูกกินผักแล้วท้องไม่ผูก
ผักหรือผลไม้มีวิตามินช่วยในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ ที่สำคัญคือใยอาหารจำนวนมากในผักและผลไม้จะช่วยทำให้ระบบขับถ่าย ท้องไม่ผูก อึไม่แข็ง ไม่เป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก และมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจจะสังเกตว่าเวลาลูกท้องผูก เขาจะไม่สบายตัว ไม่มีสมาธิ ไม่ร่าเริง ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อพัฒนาการ ใยอาหาร กากใย หรือเส้นใยอาหารในผักผลไม้จะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ดี เพราะใยอาหาร หรือ Prebiotic ถือว่าเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่ของแบคทีเรียที่ดี หรือ Probiotic ซึ่งเจ้าแบคทีเรียตัวนี้ล่ะที่ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ กระตุ้นการสร้างภูมิต้านทาน ทำให้ลำไส้แข็งแรงและระบบขับถ่ายดี ร่าเริงและพร้อมเรียนรู้ ลูกไม่กินผักไม่ได้ส่งผลเพียงแต่ร่างกายได้รับวิตามินไม่เพียงพอเท่านั้นนะคะ แต่ยังส่งผลถึงระบบการทำงานของร่างกายด้วย เช่น ระบบขัยถ่ายไม่ดี ท้องผูก ผิวพรรณไม่สดใส สมองไม่สดชื่น ร่างกายขาดภูมิต้านทานโรค ฯลฯ อย่าปล่อยให้ปัญหาลูกไม่กินผักกลายเป็นเรื่องใหญ่นะคะ สอนลูกกินผักตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ

ในผักผลไม้ยังมีสารพิเศษซึ่งทำหน้าที่คล้ายยาช่วยป้องกันโรคบางชนิด

4

เราลองมาดูพลังของผักผลไม้ หลากสี 5 สีกันบ้างว่า นอกจากสีสันสวยงามแล้ว ยังมีคุณประโยชน์อะไรอีกบางที่ทำให้สุขภาพแข็งแรง และป้องกันโรคได้หลากหลายเช่นกันมีอะไรบ้าง ประโยชน์จากผัก ผลไม้ 5 สี คงไม่ปฏิเสธใช่มั้ยว่าอาหารที่มีสีสัน เย้ายวนชวนน้ำลายสอไม่ใช่เล่น และที่มากกว่าความสดสวยชวนกินก็คือ สารต้านโรคที่อัดแน่นในบรรดาผักผลไม้หลากสี ซึ่งถือเป็นของแถมตบท้ายความอร่อยที่คุ้มค่าจริง ๆ อย่าง ที่เรารู้ ๆ กันว่าประโยชน์ของผักผลไม้นั้นมีมากมายมหาศาล ทั้งวิตามิน แร่ธาตุหลากชนิดที่เป็นประโยชน์กับกลไกต่าง ๆ ในร่างกาย และคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหาร เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรรอลและไขมัน ช่วยให้ระบบย่อย ระบบการขับถ่ายทำงานปกติ

นอกจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้ว ในผักผลไม้ยังมีสารพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายยาช่วยป้องกันโรคบางชนิด เช่น มะเร็ง โรคหัวใจหลอดเลือด เป็นต้น แต่จะกินอย่างไรเพื่อให้ร่างกายได้รับการปกป้องจากโรคภัยได้นั้น เขาแนะนำให้กินหลากหลาย ถ้าให้ชัดขึ้นมาอีกหน่อยก็คือ กินให้ครบ 5 สี ใน 5 สีสันนั้นมีอะไรบ้างมาดูกันต่อเลยสีเขียวเป็นสีแรกที่ทุกคนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงผัก สารที่ให้สีเขียวในผักก็คือคลอโรฟีลล์ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพ เช่น ลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตา เป็นต้น..ว้าว..กินผักเขียวๆทำให้ดวงตาเราแข็งแรง สีเหลือง สีส้มในกลุ่มสี นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายตัวด้วยกัน ตัวสำคัญ ๆ ก็ เช่น เบต้า-แคโรทีน ฟลาโวนอย วิตามินซี ซึ่งช่วยดูแลรักษาสุขภาพหัวใจ หลอดเลือด และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเรา และลดโอกาสการเกิดมะเร็ง กระตุ้นการกำจัดเซลล์มะเร็งของร่างกาย สีแดงสารตัวเลื่องชื่อในกลุ่มนี้ก็คือไลโคปีน เพราะมีการค้นพบว่าช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากของคุณผู้ชายได้ และลดปริมาณไขมันแอลดีแอลในเลือด นอกจากนี้อาหารสีแดงยังช่วยดูแลสุขภาพหัวใจ หลอดเลือดและระบบทางเดินปัสสาวะ ลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็ง

เหตุผลดี ๆ ที่ควรปลูกผักไว้กินเอง

ด้วยปัญหาประชากรล้นเมืองอย่างในปัจจุบัน ทำให้เราแทบไม่มีพื้นที่ปลูกพืชผักกันเท่าไร แต่การซื้อหาผักในตลาดก็อาจไม่การันตีในความปลอดภัยจากสารเคมีได้เหมือนกัน ดังนั้นการปลูกผักไว้กินเองจึงเป็นทางออกที่ดีของปัญหานี้ และด้วยเหตุผลสนับสนุนที่เราได้นำมาเสนอให้ฟังกันดังต่อไปนี้ รับรองว่าได้ยินแล้วจะรีบไปซื้อเมล็ดพันธุ์กับกระถางมาปลูกผักทันทีเลย

1. ได้ผักสดและดีต่อสุขภาพมากกว่า

เพราะตามปกติ ผักจะสูญเสียวิตามินและเกลือแร่ทันทีที่ถูกเด็ดออกจากต้น และเสียเพิ่มเติมในขั้นตอนการปรุงอาหาร ดังนั้นหากเราซื้อผักจากร้านข้างนอก ที่ใช้เวลาขนส่งและถูกแช่ไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานานกว่าจะถึงมือเรา ผักเหล่านี้แทบไม่เหลือคุณค่าอาหารใด ๆ เลย นี่คือเหตุผลว่าทำไมการปลูกผักกินเองจึงดีกว่า เพราะนอกจากจะกรอบอร่อยเพราะความสดใหม่กว่าแล้ว ยังลดโอกาสในการสูญเสียคุณค่าทางอาหารให้น้อยลงอีกด้วย

2. มีส่วนช่วยในการดูแลโลก

ผักต่าง ๆ ที่เราซื้อมาจากตลาดหรือซูเปอร์มาร์เกตนั้น ไม่ได้ปลูกในเมืองหรือในประเทศของเราเสมอไป ผักบางชนิดก็ถูกขนส่งมาจากพื้นที่ห่างไกล ทั้งยังต้องถูกแช่แข็งมาเพื่อรักษาความสด และยังต้องทำบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ขายได้ราคาแพง ทั้งหมดนี้ต้องใช้พลังงานและทรัพยากรจำนวนมหาศาล ดังนั้นการปลูกผักที่บ้านไว้รับประทานเอง จึงเป็นหนทางที่ดีในการรักษ์โลกได้อีกทาง

3. ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ ที่บ้าน

เพราะการใช้ชีวิตแบบยุคสำเร็จรูปในปัจจุบัน แทบไม่เปิดโอกาสเด็ก ๆ เรียนรู้ว่าผักต่าง ๆ มาจากไหนหรือให้ประโยชน์อะไร ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ง่าย ๆ ด้วยการให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมปลูกผักที่บ้าน ถ้าเด็ก ๆ ปลูกถั่วงอก เขาก็จะอยากลองกินถั่วงอก เพราะรู้สึกผูกพันกับพืชผักที่เขาปลูก ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้เรื่องอาหารและการกินเพื่อสุขภาพได้ง่ายนั่นเอง

4. ไม่ต้องกังวลกับยาฆ่าแมลง

ทุกคนรู้ดีว่าผักที่ซื้อจากตลาดหรือซูเปอร์มาร์เกต ไม่ได้ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงเสมอไป และวิธีที่ดีกว่าการเสี่ยงต่อสารเคมีสะสม คือการปลูกผักไว้กินเอง เพราะเราสามารถดูแลควบคุมคุณภาพได้อย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน และไม่ต้องกังวลใจเรื่องสารเคมีใด ๆ อีกด้วย

5. ประหยัดเงินในกระเป๋า

แม้ว่าในเบื้องต้นเราจะต้องลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อปลูกผักในบ้าน แต่รับรองว่าผลหลังจากนั้นจะคุ้มค่าแน่นอน เพราะนอกจากเราจะมีผักที่สดสะอาด เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าอาหารไว้รับประทานเอง (รวมถึงแบ่งปันเพื่อนบ้านแล้ว) เรายังจะได้เมล็ดพันธุ์ของพืชมาปลูกได้อีกอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะ อย่างที่คุณเองก็คาดไม่ถึงเชียวล่ะ

6. ทำให้เรามีความสุข

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่าการปลูกผักไว้กินเองทำให้เรารู้สึกมีความสุขขึ้น เพราะต้นไม้สร้างพลังงานดี ๆ ให้แก่พื้นที่รอบข้าง ทั้งยังมอบความอุดมสมบูรณ์และเชื่อมโยงเรากับความมีชีวิตชีวา ดังนั้นการปลูกผักไว้กินเองนอกจากจะให้ประโยชน์ตามที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ยังทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นด้วยนั่นเอง

ทุกคนคงรู้แล้วการปลูกผักไว้กินเองมีประโยชน์นานัปการ และยังสามารถทำได้ง่ายโดยใช้พื้นที่เพียงนิดเดียว แค่ศึกษาวิธีปลูกผักในบ้านที่มีแนะนำไว้มากมายทั้งในหนังสือและอินเทอร์เน็ต แล้วเราก็จะทั้งประหยัดเงิน มีความสุข และได้สุขภาพดีไปในคราวเดียวกันเลยค่ะ